โซเดียม มีในอาหารเกือบทุกชนิด แต่ปริมาณมากน้อยนั้นแตกต่างกันออกไป คนส่วนใหญ่จะได้ยินคำว่า ไม่ควรทานโซเดียม หรือ เกลือ เพราะอันตรายต่อร่างกาย อาจทำให้เป็นความดันได้
แต่ความเป็นจริงแล้ว ร่างกายคนเราต้องการโซเดียมในการทำให้ของเหลวในร่างกายเกิดการสมดุล และยังมีบทบาทกับการทำงานของเส้นประสาท และกล้ามเนื้ออีกด้วย แต่เพียงแค่ร่างกายต้องการโซเดียมในปริมาณที่น้อยกว่ามากๆ
ในความเป็นจริงร่างกายต้องการโซเดียมประมาณ 186 มก. ต่อวัน แต่ก็ยังมีงานวิจัยที่ขัดแย้งกันเป็นจำนวนมากเรื่องปริมาณที่แนะนำจริงๆจึงมีคำแนะนำว่าควรทานน้อยกว่า 2,300 มก. ต่อวันจะดีกว่า
โซเดียม ประโยชน์ 6 ข้อเมื่อทานแต่พอดี
ในโซเดียม ประโยชน์ 6 ข้อต่อไปนี้ คือถ้าทานไม่เกิน 2,300 มก. ต่อวัน (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ห่อ ก็เกือบจะเกินไปแล้ว) การทานโซเดียมให้เพียงพอต่อวันนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายๆด้าน แต่ถ้ามากกว่า 2,300 อาจจะเริ่มส่งผลเสียมากกว่าผลดีที่จะเกิดได้ และถ้าน้อยกว่า 186 มก.ต่อวัน ก็มีผลเสียตามมาด้วยเช่นกัน (การขาดโซเดียมเกิดขึ้นยากมาก แต่สามารถเกิดขึ้นได้)
1.ควบคุมของเหลวในร่างกาย
โซเดียมในร่างกายส่วนใหญ่จะอยู่ในเลือด และของเหลวรอบๆเซลล์ในร่างกาย และยังเป็นตัวควบคุมระดับของเหลวในร่างกายคุณอีกด้วย
2.ป้องกันแดดเผา
โซเดียมมีบทบาทในการป้องกันการถูกแดดเผาหรือการอ่อนเพลียจากความร้อน เนื่องจากโซเดียมจะเปลี่ยนการสูญเสียอิเล็กโทรไลต์ที่จำเป็น
นอกจากการดื่มน้ำเมื่อร้อนมากๆแล้ว การที่น้ำมีเกลือ หรือ น้ำตาลด้วย ยังดีต่อการป้องกันการถูกแดดเผาอีกด้วย
3.ปรับปรุงการทำงานของสมอง
สมองของคุณจะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับโซเดียมในร่างกาย การได้รับโซเดียมน้อยเกินไป มักจะทำให้เกิดการสับสน และ ง่วงซึมได้ การได้รับโซเดียมในปริมาณที่มากพอ จะช่วยทำให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นและยังพัฒนาการทำงานของสมองอีกด้วย
4.ลดอาการตะคริว
การเป็นตะคริวในหน้าร้อนนั้นเป็นเรื่องปกติเพราะร่างกายมีความร้อนและมีการคายน้ำมากกว่าปกติ นอกจากการต้องดื่มน้ำให้มากขึ้นแล้ว ยังจำเป็นต้องเสริมน้ำผลไม้ที่มีการผสมโซเดียมเข้าไปด้วย เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูอิเล็กโทรไลต์ให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง
5.ควบคุมการดูดซึมกลูโคสในร่างกาย
โซเดียมในร่างกายจะเป็นตัวช่วยทำให้กลูโคสในร่างกาย ถูกส่งไปยังเซลล์ต่างๆในร่างกายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้การส่งสารอาหารในเยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกาย เป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น
6.ควบคุมความดันโลหิต
การบริโภคโซเดียมในปริมาณที่ร่างกายต้องการนั้นโซเดียมจะช่วยรักษาการหดตัวของหัวใจ ให้ทำงานได้ตามปกติ และยังมีบทบาทในการรักษาความดันโลหิตของร่างกายอีกด้วย
กินโซเดียมเยอะผลเสีย
องค์การอาหารและยา FDA แนะนำว่า ไม่ควรทานโซเดียมมากกว่า 2300 มก. ต่อวัน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จากการทานโซเดียมมากเกินไป
แต่การได้รับโซเดียมน้อยกว่า 186 มก. ต่อวัน อาจทำให้เกิดการปวดหัว คลื่นไส้ หงุดหงิดง่าย ชัก หรืออาการอื่นๆได้ (เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ก็เกิดขึ้นได้)
1.เพิ่มความเสี่ยง หลอดเลือดและ หัวใจ
มีการทบทวนการศึกษาเกี่ยวกับโซเดียวมากมายจนได้ข้อสรุปว่าการบริโภคโซเดียมในปริมาณที่พอเหมาะ มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้
แต่การบริโภคโซเดียมสูงเกินไป มีส่วนเชื่อมโยงกับความเสี่ยงเกี่ยวกับหลอดเลือดมากยิ่งขึ้น และคนที่ร่างกายดูดซึมโซเดียมมากกว่าคนปกติควรระวิงเป็นพิเศษ
2.ไตเรื้อรัง
มีรายงานว่าคนที่เป็นไตเรื้อรังมักจะสามารถขับถ่ายโซเดียมได้น้อยกว่าคนปกติทั่วไปและยังมีโอกาสที่คนความไวต่อโซเดียมจะเพิ่มมากกว่าคนทั่วๆไปอีกด้วย
มีหลักฐานที่พบว่าการทานโซเดียวมสามารถลดความดันโลหิตได้ แต่เมื่อคนที่เป็นไตเรื้อรัง อาจจำเป็นต้องจำกัดโซเดียมให้น้อยกว่าคนทั่วๆไป
สำหรับคนที่เป็นไตเรื้อรังควรบริโภคโซเดียมให้น้อยกว่า 2,300 มก.ต่อวัน เพื่อเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากไตเรื้อรัง
3.กระดูกพรุน
ปริมาณแคลเซียมในร่างกายจะสูญเสียไปกับการปัสสาวะในแต่ละครั้ง และปริมาณโซเดียมที่ทานเข้าไปก็จะยิ่งทำให้ร่างกายขับน้ำออกมาทางปัสสาวะเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นอาหารที่มีโซเดียมสูงจึงไม่ค่อยดีนักต่อกระดูก โดยเฉพาะคนที่เป็นกระดูกพรุนอยู่แล้ว การลดบริโภคเกลืออาจมีส่วนช่วยชะลอการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูกที่เกิดจากอายุได้
4.มะเร็ง
มีการวิจัยจากกองทุนวิจัยมะเร็งโลกและสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาที่แสดงให้เห็นว่า การบริโภคโซเดียมรวมไปถึงอาหารรสเค็มสูงเกินไป มีส่วนเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น
โซเดียมสูงทำให้โพแทสเซียม ต่ำ อันตรายมากกว่าที่คิด
โซเดียมกับโพแทสเซียม มีความสัมพันธ์กันมาก ทั้ง 2 อย่าง เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในการรักษาสมดุลต่างๆของร่างกาย และยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่างๆในร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะหลอดเลือดและหัวใจ
ผู้ที่ทานโซเดียมสูง และทานโพแทสเซียมต่ำ มีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนที่มีโซเดียมต่ำ
ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีโพแทสเซียมสูง มีโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่าคนที่มีโพแทสเซียมต่ำ