วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง สำหรับสายรักสุขภาพ และคนเป็นเบาหวาน

วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง สำหรับสายรักสุขภาพ และคนเป็นเบาหวาน

สารบัญเนื้อหา

จังหวะนี้คงจะไม่เอ่ยถึงไม่ได้แล้ว กับความมาแรงของข้าวเหนียวมะม่วง จากกระแสที่แรปเปอร์สาวอย่าง มิลลิ ดนุภาคณาธีรกุล กินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์บนเวลาทีระดับโลกอย่าง Coachella Valley Music and Art Festival 2022 ในนามศิลปินหญิงเดี่ยว คนแรกของประเทศไทย ทำให้ช่วงนี้กระแสข้าวเหนียวมะม่วงกลับมาขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่ง ทำให้ชาวสวนมะม่วงที่กำลังเจอกับราคาผลผลิตที่กำลังตกต่ำจากปีก่อนๆ มีกำลังใจขึ้นอย่างมาก แต่เดี๋ยวก่อน ชีวาขอสวนกระแส เบรคหลายๆคนไว้ตรงนี้ก่อน โดยเฉพาะคนที่รักสุขภาพ และคนที่เป็นเบาหวาน เพราะในข้าวเหนียวมะม่วง 1 จานนั้น มีน้ำตาลถึง 20 กรัม หรือประมาณ 5 ช้อนชาเลยทีเดียว ซึ่ง ไม่ดีต่อสุขภาพ และคนเป็นเบาหวานแน่นอนถ้ากินเยอะจนเกินไป ฉนั้นวันนี้ชีวาเลยมาแนะนำการทานข้าวเหนียวมะม่วง และสูตร เพื่อคนรักสุขภาพ และคนที่เป็นเบาหวาน ให้ได้ลองเอาไปทำกินกันดู เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปดูกันเลย

วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง น้ำตาลต่ำ

วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง น้ำตาลต่ำ ไม่ทำให้เสียสุขภาพ

วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง สูตรน้ำตาลต่ำนี้ อาจเรียกว่าข้าวเหนียวมะม่วงซะทีเดียวเลยก็ไม่ได้ เพราะว่า เป็นการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ เพื่อให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น แต่รสชาติใกล้เคียงกับของเดิมเพียงเท่านั้น เอาไว้เป็นอีก 1 ทางเลือกสำหรับสายรักสุขภาพ และคนเป็นเบาหวานที่อยากทานข้าวเหนียวมะม่วงแบบคนทั่วไปบ้าง

วัตถุดิบ

ข้าวเหนียว 

  • ใช้เป็น ข้าวซูชิ 1 ถ้วย หรือ ข้าวเหนียว หรือข้าวกล้องถ้าชอบคลีน
  • ข้าวสะอาดสำหรับหุงข้าว
  • กระทิ 1 กล่อง
  • น้ำตาลสด มะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ
  • วนิลา 1 ช้อนชา
  • เกลือเล็กน้อย

ซอสมะม่วง 

  • เนื้อมะม่วง 226 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ไซรัปมะพร้าว (น้ำเชื่อมมะพร้าว) 1/2 ช้อนโต๊ะ

ท็อปปิ้ง วิปปิ้ง

  • กระทิ 1 กล่อง
  • วนิลา 1 ช้อนชา

เพิ่มมิ้นต์ หรือ อบเชย เพื่อเพิ่มความอร่อย

รูปภาพจาก cleanprogram.com

วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง

  1. ใส่ข้าวในชามเล็กๆ แล้วใส่น้ำ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-60 นาที ก่อนนำไปหุง
  2. ขณะที่กำลังหุงอยู่ ให้ทำน้ำกระทิ โดยผสมกะทิทั้งกล่อง น้ำตาลมะพร้าว วนิลลา และเกลือ จนเข้ากัน
  3. เมื่อหุงข้าวเสร็จแล้วให้ตักข้าวออกใส่ภาชนะ ใส่น้ำกะทิที่ผสมเสร็จแล้วลงไปขณะที่ข้าวกำลังร้อน ทีละน้อย โดยให้เคลือบข้าวพอ ไม่ใส่กะทิเยอะจนเกินไป และเก็บไว้อุณหภูมิห้อง ประมาณ 1 ชั่วโม
  4. ขณะรอข้าวไปทำซอสมะม่วงรอ ใส่มะม่วงประมาณครึ่งลูก หรือประมาณ 226 กรัม น้ำมะนาว น้ำตาลมะพร้าว ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเนียน เสร็จแล้วเทลงจาน
  5. ทำท็อปปิ้ง เพื่อเพิ่มความอร่อย ตีครีมกะทิกับวานิลลาจนฟู
  6. ตักข้าวใส่จาน 1/2 ถ้วย ราดซอสมะม่วง ตกแต่งด้วย สะระแหน่ และวิปปิ้ง พร้อมเสิร์ฟ

คำแนะนำสำหรับคนเป็นเบาหวาน

  • คนเป็นเบาหวาน ไม่ควรทานมะม่วงสุกเกิน 1/2 ผลเล็กต่อ 1 มื้อ และไม่ควรเกิน 1 ผลต่อวัน
  •  ควรทานเพียง 1 ครั้ง ต่อสัปดาห์ และอย่าราดกะทิเยอะจนเกินไป
  • เพื่อความปลอดภัยทานข้าวเหนียวมะม่วงเสร็จ ตกท้ายด้วย ชีวาตามก็ได้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับข้าวเหนียวมะม่วง

  • ข้าวเหนียวมะม่วง 1 จาน ประกอบไปด้วย
    • พลังงาน 218 แคล
    • คาร์โบไฮเดรต 29 กรัม
    • โปรตีน 2.5 กรัม
    • ไขมัน 9 กรัม
    • น้ำตาล 20 กรัม
      โดยประมาณ
  • ข้าวเหนียวมะม่วงถูกจัดเป็น 1 ใน 50 ของหวานที่น่าทานที่สุดในโลกจากสำนักข่าวระดับโลกอย่าง CNN
  • กินมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว เพื่อลดแคลอรี
  • กินข้าวเหนียวมะม่วงช่วงกลางวัน เพราะร่างกายใช้พลังงานเยอะช่วงนี้
  • ผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว แนะนำทานไม่เกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และกินข้าวเหนียวแต่น้อยพอ
  • คนสุขภาพดีปกติ ทานมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาด์ได้ แต่อย่าลืมว่า ข้าวเหนียวมะม่วงพลังงานเท่าอาหารหลัก 1 มื้อ
  • กินข้าวเหนียวดำแทน
  • เลือกกินมะม่วงแก่จัด เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
  • คนเป็นเบาหาวนควรกินครั้งละไม่เกิน ครึ่งผล และผลไม่ใหญ่เกินไป และควรน้อยกว่า 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์
  • คนเป็นโรคไตไม่ควรกิน

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ