ฮีทสโตรก (ลมแดด) คืออะไร
ฮีทสโตรกหรือลมแดดเป็นภาวะที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตถ้าไม่รู้วิธีป้องกัน ฮีทสโตรก ซึ่งภาวะนี้จะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายของแต่ละคนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปกติเป็นผลมาจากการสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกายอย่างหนัก เมื่อระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายล้มเหลว จะไม่สามารถทำให้ตัวเองเย็นลงได้เหมือนปกติ นำไปสู่ผลที่ตามมาที่เป็นอันตรายตามมา ลมแดดสามารถทำลายสมอง หัวใจ ไต และกล้ามเนื้อ และอาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
10 วิธีป้องกัน ฮีทสโตรก (ลมแดด)
เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน ความเสี่ยงต่อฮีทสโตรกหรือลมแดดกลายเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับทุกคน ลมแดดเป็นภาวะที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายทำงานล้มเหลว ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้สามารถสร้างความเสียหายต่ออวัยวะสำคัญและในกรณีที่รุนแรงอาจถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ลมแดดสามารถป้องกันได้ ถ้ารู้วิธีการป้องกันอย่างเหมาะสม ในบทความนี้ เราจะพูดถึง 10 วิธีป้องกัน ฮีทสโตรก (ลมแดด) เพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงโรคลมแดดและอยู่อย่างปลอดภัยในช่วงอากาศร้อน บทความนี้ จะทำให้คุณสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดลมแดดสำหรับตัวคุณเองและผู้อื่น รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของคุณ เพื่อให้ทุกชีวิตผ่านช่วงหน้าร้อนนี้ไปได้
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่สุดในการป้องกันฮีทสโตรก หรือ ลมแดด เนื่องจากการดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายของคุณรักษาอุณหภูมิที่ดีต่อสุขภาพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาวะขาดน้ำอาจทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเหงื่อและระบายความร้อนได้ เพิ่มความเสี่ยงต่อลมแดดและอันตรายต่อร่างกายอื่นๆอีกมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน
คำแนะนำ:
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน
- ผู้หญิง ควรดื่มวันละประมาณ 11 แก้วต่อวัน (2.7 ลิตรต่อวัน)
- ผู้ชาย ควรดื่มวันละประมาณ 15 แก้วต่อวัน (3.7 ลิตรต่อวัน)
- จิบน้ำเรื่อยๆทั้งวันแทนการดื่มทีละมากๆ
- ตรวจสีของปัสสาวะ ถ้าเหลืองอ่อนๆ คือปกติ ถ้าเริ่มเข้ม แสดงว่าดื่มน้ำไม่พอแล้ว
- ดื่มน้ำมากขึ้น ถ้าต้องใช้แรงเยอะ
- ทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะๆ เช่น แตงโม แตงกวา
- เลี่ยงเครื่องดื่มขับปัสสาวะช่น แอลกอฮอล์ คาเฟอีน น้ำอัดลมต่างๆ
- พกขวดน้ำติดตัวเสมอ
- ตั้งเวลาดื่มน้ำ หรือ ใช้ขวดน้ำที่มีช่วงเวลาดื่มน้ำบอก และทำตาม
2.แต่งกายให้เหมาะสม
การแต่งกายอย่างเหมาะสมสำหรับสภาพอากาศร้อนเป็นสิ่งสำคัญและยังทำให้รู้สึกสบายตัวในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด การสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณรักษาอุณหภูมิที่ดีต่อสุขภาพได้ โดยช่วยให้อากาศถ่ายเทและระบายความร้อนได้ดีขึ้น
คำแนะนำ:
- เลือกผ้าที่มีน้ำหนักเบา เช่น ผ้าฝ้าย
- หรือเลือกผ้าใยสังเคราะห์อย่างไนลอน เพื่อลดความชื้นจากผิว
- เลือกชุดสีอ่อน เพื่อสะท้อนแดด (สีเข้มจะดูดแสง ทำให้ยิ่งร้อน)
- ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเท
- ใส่อุปกรณ์ป้องกันแดด เช่น หมวก เพื่อป้องกันผิวโดนแดดโดยตรง
- ใส่แว่นกันแดด ลดอันตรายจากรังสียูวี
- ใส่ชุดที่ออกแบบมาสำหรับอากาศร้อน
3.อยู่ในร่ม หรือที่เย็นๆ
การรักษาความเย็นในช่วงอากาศร้อนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันลมแดด การรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในช่วงที่ปลอดภัย คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไปและลดความเครียดในร่างกายได้
คำแนะนำ:
- พกพัดลมพกพาไปด้วยทุกที่
- พยายามอยู่ในที่เย็นๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า
- เปิดหน้าต่างและประตู ให้ลมพัดผ่านห้องได้ แทนการให้เฉพาะลมเข้าห้อง
- ใช้ม่านเพื่อบังแดด
- ใช้ฉนวนกันความร้อนในบ้าน เพื่อถ่ายเทความร้อนในบ้าน
4.ลดกิจกรรมกลางแจ้ง
การจำกัดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคลมแดดและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิสูงและแสงแดดโดยตรง คุณสามารถลดความเครียดในร่างกายและลดความเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนสูงเกินไปได้
5.พักบ่อยๆ เมื่อต้องทำกิจกรมกลางแจ้ง
การหยุดพักในช่วงที่อากาศร้อนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคลมแดดและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสามารถฟื้นตัวและเย็นลงได้ การพักช่วยลดความเครียดในร่างกายของคุณที่เกิดจากการสัมผัสความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างกิจกรรมกลางแจ้งหรือการออกแรงทางกายภาพ
คำแนะนำ:
- พักในร่มที่อากาศถ่ายเท
- กำหนดเวลาในการพักอย่างสม่ำเสมอ แม้ไม่ได้เหนื่อยมาก ก็ให้ทำตามที่กำหนดไว้
- อย่าลืมดื่มน้ำขณะที่พัก เพื่อเพิ่มความชุมชื้นให้ร่างกาย
- คลายเสื้อผ้าหรือถอดชั้นใน ถ้าเป็นไปได้ระหว่างพักในร่ม
- ยกเท้าช่วงพัก เพื่อลดอาการบวมของเท้า แลพเพิ่มการไหลเวียน
- เช็คอาการของตัวเองทุกครั้งที่พัก
6.ทาครีมกันแดด
1.ในวิธีป้องกัน ฮีทสโตรก ที่สำคัญคือการทาครีมกันแดด ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวของคุณจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์ ซึ่งอาจทำให้เกิดผิวไหม้ ผิวเสีย แก่ก่อนวัย และเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง แม้ว่าครีมกันแดดอาจไม่สามารถป้องกันลมแดดได้โดยตรง แต่การปกป้องผิวจากการถูกแดดเผาสามารถช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวมากขึ้นในสภาพอากาศร้อน และลดความเครียดโดยรวมในร่างกายของคุณ
คำแนะนำ:
- เลือกครีมกันแดดที่ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB
- เลือกครีมกันแดดที่ค่า SPF ที่มากกว่า 30
- ทาก่อนออกแดด 15-30 นาที
- ทาครีมกันแดดทุกๆ 2 ชั่วโมง ป้องกันครีมที่อาจหลุดตามเหงือ
- อย่าให้ครีมกันแดด แล้วไม่ใส่ชุดกันแดด เพื่อครีมกันแดดอาจจะป้องกันได้ไม่หมด
7.รู้จักยาของคุณ
การรู้จักยาของคุณและเข้าใจว่ายาอาจมีปฏิกิริยาอย่างไรกับความร้อนหรือแสงแดด เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันลมแดดและภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน ยาบางชนิดอาจส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้คุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการขาดน้ำ
คำแนะนำ:
- ปรึกษาแพทยประจำตัว เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา
- ระวังยาที่อาจทำให้ไวต่อแสงแดด
- หมั่นเช็คสัญญาณที่ร่างกายส่งมา เช่น เหนื่อย เวียนหัว อาจเสี่ยงเป็นลมแดดได้
- พกกระดาษที่เขียนรายละเอียดของยาไว้ เผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉิน แพทย์จะได้ดูแลถูก
8.ตรวจสอบสภาพอากาศ
การติดตามสภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้คุณรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ระดับความชื้น และคำแนะนำเกี่ยวกับความร้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ คุณสามารถวางแผนกิจกรรมของคุณตามนั้นและใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อป้องกันตัวเองและผู้อื่นจากความร้อนสูงโดยการเฝ้าดูสภาพอากาศ
คำแนะนำ:
- เช็คพยากรณ์อากาศ ไม่ว่าจากมือถือ วิทยุท้องถิ่น หรือ โทรทัศน์
- ปรับแผนตามพยากรณ์อากาศ ถ้าร้อนเกิน ควรเลี่ยงให้ทำกิจกรรมช่วงอากาศเย็นๆ หรือ ไม่ร้อนมากแทน
- เช็คสภาพอากาศภายในอาคาร ถ้าไม่มีหน้าต่างถ่ายเทอากาศ อาจทำให้ภายในอาคารร้อนกว่าข้างนอกได้
9.ปรับตัวให้ชินกับสภาพอากาศ
การปรับตัวให้ชินกับสภาพอากาศร้อนเป็นการป้องกันโลมแดดและภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน การปรับตัวให้ชินกับสภาพอากาศเป็นกระบวนการที่ร่างกายของคุณค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับความร้อน ช่วยให้คุณทนต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นและทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
คำแนะนำ:
- เริ่มอยู่กับความร้อนช่วงเวลาสั้นๆ และพัก จากนั้นค่อยเพิ่มระยะเวลาขึ้น
- เลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก และอยู่กลางแจ้ง ขณะอากาศร้อนจัดๆ
- พักบ่อยๆถ้าต้องออกแดด
- ดื่มน้ำมากขึ้น ถ้าต้องออกแดด
10.สังเกตอาการอ่อนเพลียจากความร้อน
การสังเกตอาการอ่อนเพลียจากความร้อนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคลมแดดและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน อาการอ่อนเพลียจากความร้อนเป็นอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อนที่ไม่รุนแรงนัก ซึ่งสามารถพัฒนาได้หลังจากสัมผัสกับอุณหภูมิสูงและปริมาณของเหลวที่ไม่เพียงพอ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการอ่อนเพลียจากความร้อนสามารถพัฒนาไปสู่ลมแดด ซึ่งเป็นภาวะที่คุกคามชีวิตได้
คำแนะนำ:
- เหงื่อออกมากกว่าปกติ
- เหนื่อยล้า
- เวียนหัว
- ปวดหัว
- ขนลุกแม้จะร้อน
อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของลมแดดได้
ฮีทสโตรก (ลมแดด) เกิดจากอะไร
ฮีทสโตรก เกี่ยวข้องกับความร้อนที่รุนแรง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายทำงานอย่างหนัก ส่งผลให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลมแดดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที มีหลายปัจจัยที่สามารถนำไปสู่การเกิดฮีทสโตรกได้
- การออกกำลังกายอย่างหนัก
- ภาวะขาดน้ำ
- อายุ (ทารกและเด็กเล็ก รวมถึงผู้ใหญ่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคลมแดด)
- ภาวะทางการแพทย์ (อ้วน หัวใจ เบาหวาน หรือเกี่ยวกับไต)
- ยาบางชนิด
- การใช้แอลกอฮอล์และยาเสพติด
- การสวมเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม
- ขาดการปรับตัวให้เคยชินกับสภาพอากาศ
- การเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า เช่น เหนื่อยหอบกว่าปกติ แล้วยังทำงานต่อ
อาการเป็นอย่างไร?
ฮีทสโตรกเป็นเกี่ยวข้องโดยตรงกับความร้อนที่รุนแรง โดยมีลักษณะอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปกติจะสูงกว่า 104°F (40°C) อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที วิธีป้องกัน ฮีทสโตรก ไม่จำเป็นต้องมีอาการฮีทสโตรก ถึงจะทำ สามารถ ทำได้แม้ไม่ได้ร้อนมาก เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดขึ้น ถ้า แต่ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบทำทันที
- อุณหภูมิร่างกายสูง
- สภาพจิตใจหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป
- ผิวหนังร้อนและแห้ง
- หายใจเร็วขึ้น
- ชีพจรเต้นเร็วและแรง
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ปวดหัว
- อาการวิงเวียนหัวหรือหน้ามืด
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริวหรืออ่อนแรง
ใครควรระวังบ้าง ?
ทุกคนสามารถเป็นลมแดดได้ถ้าอยู่กลางแดด หรือ ที่ร้อนมากๆ เป็นเวลานานๆ แต่บุคคลบางกลุ่มมีความเสี่ยงสูง มากกว่าคนปกติเช่น:
- ทารกและเด็กเล็ก
- ผู้สูงอายุ
- บุคคลที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน หัวใจ และอ้วน
- นักกีฬา
- ผู้ทำงานกลางแจ้ง
- ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อการควบคุมอุณหภูมิ
วิธีรักษาฮีทสโตรกด้วยตัวเอง
หากคุณสงสัยว่าเป็นฮีทสโตรก ให้แจ้งคนที่อยู่ใกล้เคียงให้เรียกรถพยาบาลให้ หรือ โทร 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ทั่วไทย) เพื่อรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที ระหว่างรอความช่วยเหลือ คุณสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ดังนี้:
- ย้ายไปอยู่ในที่เย็นกว่า โดยควรอยู่ในที่ร่มและอากาศถ่ายเทได้ที
- ปลดกระดุม หรือถอดเสื้อผ้าส่วนเกินออก
- ใช้น้ำเย็น น้ำแข็งประคบ หรือประคบเย็นเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย
- ดื่มน้ำเย็นหรือเครื่องดื่มเกลือแร่เรื่อยๆ หากมีสติและสามารถกลืนได้
- ยกขาขึ้นพาดอะไรซักอย่าง ให้ขาสูงกว่าตัวถ้าเป็นไปได้ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดโอกาสที่จะเกิดภาวะช็อก
วิธีการรักษาลมแดดสำหรับผู้อื่น
หากคุณพบคนที่เป็นลมแดด ให้โทรขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ระหว่างรอความช่วยเหลือ คุณสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ดังนี้:
- ตั้งสติตัวเองให้ดี
- เครียคนรอบข้างให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น
- ย้ายบุคคลนั้นไปยังตำแหน่งที่เย็นและอากาศถ่ายเทกว่า
- ปลดกระดุม หรือถอดเสื้อผ้าส่วนเกินออก
- หาอะไรที่สามารถพัดได้ พัดลมเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ
- ประคบน้ำแข็ง หรือประคบน้ำเย็นตามร่างกาย
- กระตุ้นให้พวกเขาดื่มน้ำเย็น เรื่อยๆ หากรู้ตัวและสามารถกลืนได้ แต่อย่าบังคับให้ดื่ม ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวหรือไม่สามารถกลืนได้
- ยกขาผู้ป่วยขึ้นถ้าเป็นไปได้ ให้ยกขาของบุคคลนั้นขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะช็อก
- เช็คอาการของผู้ป่วย เพื่อจะได้ส่งต่อข้อมูลให้หน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้
- อย่าให้ยาลดอุณหภูมิ เช่น แอสไพริน เพราะจะยิ่งเป็นอันตรายกว่าเดิม
- อย่าลืมที่จะโทร 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ทั่วไทย) หรือให้คนที่อยู่ในสถานะการโทร
วิธีรักษาฮีทสโตรกสำหรับสัตว์
ยิ่งช่วงหน้าร้อน เราจะเห็นสัตว์เลี้ยงของเรา หรือ ของคนอื่นๆ ร้อนและหอบมากกว่าปกติ ยิ่งสัตว์เลี้ยงที่มีขนหนา ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ หากคุณสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นลมแดด ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ย้ายสัตว์ไปยังบริเวณที่เย็นกว่า โดยควรอยู่ในที่ร่มหรือในที่ร่ม
- นำน้ำจืดและน้ำเย็นให้ดื่ม แต่อย่าบังคับให้ดื่ม
- ประคบน้ำเย็น ประคบน้ำแข็ง หรือประคบเย็นตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ (เช่น คอ ขาหนีบ และใต้ขาหน้า)
- พัดสัตว์เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและส่งเสริมการทำความเย็นแบบระเหย
- ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและติดต่อสัตวแพทย์ทันที
เป็นเบาหวาน รับมือฮีทสโตรกอย่างไร?
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับลมแดดเนื่องจากภาวะขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบของอุณหภูมิที่สูงต่อระดับน้ำตาลในเลือด หากคุณเป็นเบาหวานและสงสัยว่าเป็นลมแดด ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ปรึกษากับทีมดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับการปรับแผนการจัดการโรคเบาหวานของคุณในช่วงที่มีความร้อนสูง
- ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของคุณอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจผันผวนระหว่างการสัมผัสกับความร้อน
- ปฏิบัติตามแนวทางทั่วไปในการรักษาโรคลมแดด เช่น การเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณที่เย็นกว่าและประคบน้ำเย็นบนร่างกาย ตามหัวข้อข้างบน
- เก็บยาและเวชภัณฑ์เบาหวานของคุณไว้ในที่เย็นและมีการควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันความเสียหาย
- ไปพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการ
จะแยกฮีทสโตรกจากภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อนได้อย่างไร?
ความเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อนมีอยู่ ตั้งแต่สภาวะที่ไม่รุนแรง เช่น ตะคริวจากความร้อน ไปจนถึงสภาวะที่รุนแรงกว่า เช่น อาการอ่อนเพลียจากความร้อนและลมแดด สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความแตกต่างของอาการและความรุนแรงเพื่อตอบสนองอย่างเหมาะสม:
ตะคริวจากความร้อน
ปวดกล้ามเนื้อหรือกระตุกที่เกิดขึ้นระหว่างหรือหลังการออกกำลังกายในที่ที่มีอุณหภูมิสูง การรักษารวมถึงการพักผ่อน การให้ความชุ่มชื้น และการนวดเบาๆ กล้ามเนื้อที่ได้รับผลกระทบ
อาการอ่อนเพลียจากความร้อน
อาการต่างๆ ได้แก่ เหงื่อออกมาก ชีพจรเต้นเร็ว เวียนศีรษะ เหนื่อยล้า ผิวหนังเย็นและชื้น และเป็นลม การรักษารวมถึงการเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณที่เย็นกว่า ดื่มน้ำเย็น และพักผ่อน
ฮีตสโตรก
ภาวะที่คุกคามชีวิตโดยมีอาการต่างๆ เช่น อุณหภูมิร่างกายสูง สภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง หายใจเร็วและชีพจรเต้นเร็ว และผิวหนังร้อนและแห้ง จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที และการรักษาต้องใช้มาตรการระบายความร้อนที่รุนแรงและให้ความชุ่มชื้น
เมื่อเข้าใจความแตกต่างของอาการและความรุนแรง คุณสามารถดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติม และรับรองความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่นในช่วงที่มีความร้อนสูง
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นของภาวะที่เกิดจากความร้อนนั้นไม่ได้ต่างกันมากนัก
อาการหลังเป็น ฮีทสโตรก
การฟื้นตัวจากอาการฮีทสโตรกอาจต้องใช้เวลาซักพัก และแต่ละคนอาจมีอาการหรือภาวะแทรกซ้อนต่อเนื่องแม้ว่าจะได้รับการรักษาในช่วงแรกแล้วก็ตาม อาการหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเป็นลมแดด ได้แก่:
- อาการวิงเวียนศีรษะหรือหน้ามืดบ่อยๆ
- ไวต่อความร้อนมากกว่าก่อนเป็นลมแดด
- คลื่นไส้หรือเบื่ออาหาร
- ปวดศีรษะหรือปวดกล้ามเนื้อ
- สมาธิสั้นหรือปัญหาเกี่ยวกับความจำ
- การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
- ปัญหาเกี่ยวกับไตหรือตับ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลหลังจากประสบกับอาการฮีทสโตรกเพื่อติดตามอาการหรือภาวะแทรกซ้อนใดๆ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นตัวและแนะนำการรักษาหรือการแทรกแซงที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่กำลังดำเนินอยู่ นอกจากนี้ การใช้มาตรการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงอาการฮีทสโตรกในอนาคตก็มีความสำคัญ เนื่องจากบุคคลที่เคยมีอาการฮีทสโตรกอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดลมแดดอีกครั้งได้
วิธีดูแลตัวเองหลังเป็นลมแดด
อย่างที่แจ้งไปยังหัวข้อก่อนหน้าว่าลมแดด อาจต้องใช้เวลาซักพักเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว จนกว่าอาการจะดีขึ้น แนะนำให้หมั่นดูแลตัวเอง จนหายดี ก่อนออกไปทำกิจกรรมกลางแดด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ (จิบเรื่อยๆแทนกว่าดื่มครั้งละมากๆ เพื่อเลี่ยงอาการบวมน้ำ)
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนโดยตรง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณ
- สวมเสื้อผ้าหลวมๆ สีอ่อนเพื่อไม่ให้เสื้อผ้าดูดซับความร้อน
- ระมัดระวังการใช้ยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อลมแดด เช่น แอสไพริน
- หมั่นดูสัญญาณของอาการอ่อนเพลียจากความร้อน
สรุป
ฮีทสโตรกหรือ ลมแดดเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน การทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก การขาดน้ำ และภาวะทางการแพทย์บางอย่าง วิธีการป้องกัน ได้แก่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่งกายให้เหมาะสม หาสภาพแวดล้อมที่เย็น และติดตามอาการ การรับรู้ถึงอาการต่างๆ เช่น อุณหภูมิร่างกายสูง สภาพจิตใจที่เปลี่ยนแปลง และชีพจรเต้นเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแทรกแซงอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เป็นลมแดด ให้โทรหาบริการฉุกเฉินและเริ่มพยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นถ้าทำได้ เช่น ย้ายบุคคลไปยังที่เย็นกว่า ใช้ถุงเย็น และให้ความชุ่มชื้นหากรู้ตัว การฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลา และการดูแลตนเองหลังจากเป็นลมแดดประกอบด้วยการพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ค่อย ๆ กลับไปทำกิจกรรมทางกายใหม่ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะอาจเกิดลมแดดซ้ำขึ้นได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ความเครียดจากความร้อน | CDC กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐอเมริกา
- ลมแดด | Mayoclinic มูลนิธิมาโยเพื่อการศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ (MFMER)
- ลมแดด | Clevelandclinic คลีฟแลนด์คลินิก
- การอ่อนเพลียจากความร้อนและลมแดด | NHS เว็บไซต์ด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร
- ลมแดด | Webmd เว็บข่าวสารทางการแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ
- ลมแดด | หอสมุดแห่งชาติแพทยศาสตร์สหรัฐอเมริกา